จเด็จ มีลาภ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ให้สัมภาษณ์ หลังศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบคัดเลือก กลุ่มดี นัดที่สาม
สำหรับเกมดังกล่าวทีมชาติไทย U17 พลิกกลับมาชนะ อินเดีย 3-2 จากการยิงของ ศิวกร พลสรรค์ สองประตูและอีกลูกจาก ชัยวัฒน์ เงินมา
จเด็จ มีลาภ กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีใจที่ทีมชาติไทยสามารถเข้ารอบต่อไปได้ แต่วิธีการเล่นของเด็กยังไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะครึ่งแรกเด็กอาจจะประมาทคิดว่าจะเล่นยังไงก็ได้ ต่างคนต่างเล่นกันอยู่ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวกันเยอะ จนมาเสียประตูโดนขึ้นนำ เรายังต้องปรับปรุงอีกเยอะในการก้าวขึ้นไประดับเอเชีย ช่วงพักครึ่งเรามาคุยกันใหม่ว่าหากเล่นแบบนี้ก็จบแค่นี้ไม่ได้ไปต่อ ครึ่งหลังทุกคนเลยเล่นเป็นทีมด้วย”
“ผมพยายามปลุกสมาธิของนักเตะ บอกให้พวกเขาเล่นเป็นทีมมากขึ้น หากทุกคนรวมใจกันเล่นและหากมีเลือดนักสู้จะทำให้ทีมกลับมาได้ แบบในรายการชิงแชมป์อาเซียนที่เราโดนเวียดนามขึ้นนำโดนมาเลเซียนำไปก่อนเราก็กลับมาได้ ครั้งนี้พยายามบอกให้ทุกคนรวมใจกัน วิ่งเข้าไปกดดันมากขึ้น กระหายในการเล่นมากขึ้น จนครึ่งหลังสามารถทำได้ดี”
“ต้องยอมรับว่าอินเดียมาดีเช่นกัน เขาอาจจะดูเกมที่เราพบกับเติร์กเมนิสถาน ทำให้พยายามไม่ต่อบอลสู้กับเรา จะโยนบอลยาวเพื่อใช้ความสามารถและความเร็วของแนวรุกเพื่อเล่นงานแนวรับของทีมชาติไทย”
“ต้องขอบคุณหลายภาคส่วนที่สนับสนุนทีมชาติไทยชุดนี้ โดยเฉพาะสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทางท่านนายกมีการอัดฉีดเพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเรามาโดยตลอด รวมถึงขอบคุณทุกโรงเรียนทุกอคาเดมี่ที่ส่งเด็กมาให้เราแบบเต็มใจและสนับสนุนเสมอมา ฟุตบอลทีมชาติไทยเป็นของทุกคน ทุกคนให้ความร่วมมือและสนับสนุนทีมชาติซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี ในอนาคตเด็กชุดนี้จะสู้ได้ทุกทีมหากมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ”
ด้าน ศิวกร พลสรรค์ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของ เกมนี้กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีใจที่สามารถช่วยทีมให้เข้ารอบต่อไปได้ แต่เรายังต้องช่วยกันเล่นและพยายามเล่นเป็นทีมให้มากขึ้น ครึ่งแรกเรามั่นใจเกินไปและใช้ความสามารถเฉพาะตัวมากเกินไปด้วยพอพักครึ่งโค้ชช่วยกันกระตุ้นจนเรากลับมาได้ เรายังมีจุดที่ต้องแก้ไขให้ดีกว่านี้ก่อนจะไปเล่นรอบสุดท้าย”
“ขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่เข้ามาเชียร์พวกเราในนัดนี้ รวมถึงคนที่ดูผ่านทางถ่ายทอดสดด้วย ขอบคุณมากๆที่เชียร์พวกผมและส่งกำลังใจสนับสนุนทีมของเราตลอดมา”
ทีมชาติไทย U17 เก็บ 9 คะแนนเต็ม คว้าแชมป์ของกลุ่มดี และผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในช่วงระหว่างวันที่ 3-20 เมษายน 2568 ซึ่งในรายการนี้จะคัดเอา 8 ชาติจากทวีปเอเชีย เป็นตัวแทนไปเล่นฟุตบอลเยาวชนโลก ที่กาตาร์ ต่อไป